วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555


วาระภูเก็ตด้านสิ่งแวดล้อม

       ครับเข้าสู่วาระภูเก็ตอีกวาระหนึ่ง ที่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน และแสดงถึงพลังในการร่วมกันปกป้องทรัพยากรที่เรามีอยู่อย่างน้อยนิด ในเวลาปัจจุบันที่มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่รู้เท่าทัน จังหวัดภูเก็ตมีประชากรกว่า 200,000 คน และมีอัตราประชากรแฝงอีกกว่า 150,000 คน ทั้งแรงงานอพยพ และแรงงานต่างด้าว ที่ขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 30,000 คน ที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนและหลบหนีเข้าเมืองอีกกว่า 20,000 คน เรามีพื้นที่อยู่อาศัยที่เหลืออยู่อย่างจำกัด การเจริญโตเติบของชุมชนเมืองได้แผ่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ป่าไม้ถูกทำลาย ป่าชายเลนถูกลุกล่ำ เราคงต้องกลับมาทำความเข้าใจและสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิดร่วมกัน ให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจกับสภาพแวดล้อม และทรัพยากรที่เรามีอยู่อย่างจำกัด ทั้งยังต้องเร่งสร้างทรัพยากรบุคคลเพิ่มขึ้น เพื่อเข้ามาผลักดันและพัฒนา คุณภาพของสิ่งแวดล้อม ผมพอจะแยกทรัพยากรที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาและคงวามเป็นอยู่ ของชุมชนของคนภูเก็ตได้ในหลายส่วนทั้งมีความจำเป็นที่จะต้องมองไปสู่แนวทางการรักษาและอนุรักษ์ ทรัพยากรเหล่านั้นให้คงอยู่คู่ชาวภูเก็ตต่อไป
      ในส่วนแรกคงจะต้องกล่าวไปถึงในส่วนของ ทรัพยากรทางทะเล ที่มีส่วนสำคัญต่อการประกอบอาชีพ และเศรษฐกิจหลักของคนภูเก็ต ทั้งในส่วนของการนำเที่ยว และการประมง เราคงต้องไปมองในด้านแรกก่อน คือธุรกิจบริการหรือการนำเที่ยว การนำเที่ยวทางทะเลของจังหวัดต้องยอมรับว่าเป็นธุรกิจนำเที่ยวอีกด้านหนึ่งที่สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ประกอบการด้านนี้ เรามีเกาะแก่งมากมายรายล้อมจังหวัดภูเก็ต เรามีแหล่งดำน้ำที่สวยงามที่นักเที่ยวรู้จักและให้ความสำคัญ แต่ทั้งนี้นับวันธุรกิจด้านนี้ยิ่งได้รับผลกระทบอย่างมาก เกิดอะไรขึ้นกับเรื่องนี้ ถ้าจะมองแบบผ่าน คงต้องบอกว่า นักท่องเที่ยวคงเบื่อ หรือผู้ประกอบการขาดความสนใจนักท่องเที่ยว แต่หากจะมองแบบหวังอนาคตเราคงต้องย้อนกลับมาสู่เราเอง เพราะวันนี้มีการลับลอบตัดปะการังขายกัน มีการทำอ้วนรุน บริเวณแนวปะการัง มีการทิ้งขยะลงไปในทะเล เรือนำเที่ยวปล่อยของเสียลงสู่ทะเล และคราบน้ำมันที่ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว ทั้งยังมีการลับลอบจับปลาสวยงาม เพื่อจำหน่ายให้กับนายทุน นี้คือปัญหาใหญ่ที่กำลังทำลายทรัพยากรทางทะเลของเรา ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องตระหนักในเรื่องนี้และหาแนวทางร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราทุกคนต้องร่วมกันปกป้องทรัพยากรของเรา ทั้งผู้ประกอบการเอง และนักท่องเที่ยว ต้องยุติการทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งในทางตรงและทางอ้อม ถึงเวลาหรือยังที่จำต้องมีการออกมาตรการ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติที่ถูกทำลาย เราสามารถที่จะเพาะปะการังได้สำเร็จแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะคืนปะการังสู่ทะเลอีกครั้ง ถึงเวลาแล้วที่จะคืนปลาสวยงามกลับคืนสู่อ้อมกอดของเกลียวคลื่นอีกครั้ง นี้คือสิ่งที่เราต้องทำ และต้องบอกกับลูกหลานของเราว่า น้ำคือชีวิต ป่าคือชีวิต นี้คือมรดกอันยิ่งใหญ่ที่เราทุกคนจะต้องปกปักรักษาและถ่ายทอดมรดกนี้ไปสู่ลูกหลานของเราชาวภูเก็ตต่อไป
      ในส่วนของทรัพยากรชายฝั่ง ทั้งในส่วนของป่าชายเลน และการประมงชายฝั่ง นับวันการทำประมงชายฝั่งได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนมากขึ้น อันสืบเนื่องจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนแปลง อันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เกิดสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิร้อนขึ้น สัตว์ทะเลไม่วางไข่ตามฤดูกาล ทั้งฤดูกาลเปลี่ยนแปลง ฤดูร้อนเร็วขึ้น ฤดูฝนน้อยลง หรืออาจจะมากขึ้น และเมื่อไม่นานมานี้ถ้าจำได้ เมื่อปลายปี 2548 เกิดภัยพิบัติครั้งสำคัญ คลื่นยักษ์สึนามิ พัดเข้าถล่มชายฝั่งอันดามัน และจังหวัดในแถบทะเลอันดามัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจได้เกิดขึ้น แนวเขตทะเลชายฝั่งที่มีแนวป่าชายเลนเกือบไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์ครั้งนั้น เนื่องจากป่าชายเลนสามารถลดแรงปะทะของแนวคลื่นได้ และลดความรุนแรงของคลื่นลงได้ นี้คือสิ่งที่เราต้องตระหนัก ปัจจุบันมีการลุกล่ำพื้นที่ป่าชายเลนมากขึ้น อันเกิดจากการขยายตัวของชุมชนเมืองที่มีอัตราประชากรเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ป่าชายเลนในจังวัดภูเก็ตลดลงต่อเนื่อง การลุกล่ำป่าชายเลนยังส่งผลต่อระบบชีววิทยา และระบบนิเวศน์ชายฝั่ง ยังส่งผลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ทะเลน้ำตื้น ที่ใช้ป่าชายเลนเป็นพื้นที่ฝักไข่และวางไข่ เมื่อป่าชายเลนถูกทำลายสัตว์น้ำชายฝั่งก็จะถูกทำลายไปด้วย การประกอบอาชีพประมงชายฝั่งย่อมได้รับผลกระทบในทันที ทั้งยังมีการลักลอบทำอ้วนลุนบริเวณชายฝั่งด้วย เราคงต้องตระนักถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และหามาตรการรองรับ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือการหาเหตุและผลของปัญหาเหล่านี้จัดการปัญหาอย่างเข้าใจ และรู้จริง อาจจะมีการเพิ่มอัตราการขยายพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้น เพื่อจัดการระบบนิเวศน์ชายฝั่ง และมีการจำกัดพื้นที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน มีการควบคุมดูแลกันเองภายในชุมชน และต้องสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับชุมชนนั้น ต่อความสำคัญของทรัพยากรชายฝั่งที่เรามี เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันป้องกันและรักษาทรัพยากรทางทะเลที่เรามีอยู่อย่างจำกัดให้คงอยู่คู่กับเราชาวภูเก็ตต่อไป
      นั้นคือวาระของเรา ในส่วนของทรัพยากรธรรมชาติที่เรามีอีกอย่างคือป่าต้นน้ำ เช่น ป่าเขาพระแทว ป่าบริเวณเทือกเขากะทู้ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำของเราชาวภูเก็ตเขาพระแทวเป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำสำคัญ เกิดเป็นน้ำตกบางแป แลน้ำตกโตนไทร ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของชาวภูเก็ต เทือกเขากะทู้เป็นแหล่งกำเนิดของคลองบางใหญ่เป็นสายน้ำแห่งชีวิตของคนภูเก็ต พื้นที่ป่าบริเวณนั้นยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก และจะต้องจัดให้เป็นป่าอนุรักษ์ห้ามมีการบุกรุก และหาแนวทางให้ชาวบ้านในบริเวณนั้นตระหนักถึงคุณค่าของป่าที่เรามี เพื่ออนุรักษ์ซึ่งป่าต้นน้ำของเรา หากมีการทำลายป่าเพิ่มขึ้นเราคงไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค อีกต่อไป แม้แต่ปัจจุบันการบริโภคน้ำมีอัตราการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรมต่างๆ เราคงจะต้องมีการรณรงค์การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่าและใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่ออนาคตของเราชาวภูเก็ตทุกคน เพราะน้ำคือชีวิต นี้จึงเป็นที่มาของวาระสิ่งแวดล้อม วาระภูเก็ตอีกวาระหนึ่งซึ่งเป็นวาระที่เราจะต้องร่วมกันรับผิดชอบและกำหนดเป็นวาระของเราทุกคน เพื่อคงไว้ซึ่งมรดกทางธรรมชาติเพื่อลูกหลานของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น